Breaking News

มีสาระดีดี มาให้คุณในทุกๆวัน

20 ประโยคเด็ดแทงใจ หัดฟังไว้ถ้าอยากสำเร็จ


Jim Rohn เขาคือใคร ใครคือเขา หลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นชื่อนัก มากเท่ากับ Steve Job หรือ Mark Zuckerberg แต่ถ้าหากคุณเป็นคนชอบอ่านหนังสือแบบ How-To หรือชอบเรียนรู้แนวคิดของบุคคลที่ประสบความสำเร็จแล้วละก็ Jim Rohn จะเป็นอีกหนึ่งคนที่คุณควรต้องศึกษาเอาไว้
Jim Rohn เกิดในครอบครัวชาวไร่ ชาวนา แต่ก็สามารถผลักดันตัวเองขึ้นมาจนเป็นนักธุรกิจ และสร้างชื่อจนเป็นที่รู้จักในฐานะ “นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ” และถึงแม้ว่าเขาจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่คำพูด และแนวคิดของเขายังคงเป็นประโสยชน์ สำหรับนักธุรกิจ และคนที่อยากพัฒนาตัวเอง
1. “Don’t wish it was easier, wish you were better. Don’t wish for less problems, wish for more skills. Don’t wish for less challenges, wish for more wisdom.”
อย่าหวังให้ชีวิตดีขึ้น จงหวังให้ตัวเองดีขึ้น อย่าหวังปัญหามันน้อยลง จงหวังให้ตัวเองเก่งขึ้น อย่าหวังให้น้อยลง จงหวังให้คุณฉลาดขึ้น
2. “How sad to see a father with money and no joy. The man studied economics, but never studied happiness.”
เป็เรื่องเศร้าที่เห็นคนเป็นพ่อ มีเงินแต่ไม่มีความสุข เขาเรียนรู้วิธีหาเงิน แต่ไม่เรียนรู้วิธีหาความสุข
3. “Days are expensive. When you spend a day you have one less day to spend. So make sure you spend each one wisely.”
เวลา 1 วัน มีราคาแพงมาก เมื่อคุณใช้เวลาไป 1 วัน นั่นหมายความว่า คุณมีเวลาน้อยลง 1 วันให้ใช้ ดังนั้นจงใช้ให้คุ้มค่าที่สุด
4. “Discipline is the bridge between goals and accomplishment.”
ความมีวินัยคือ สะพาน ระหว่าง เป้าหมายและความสำเร็จ
5. “Failure is not a single, cataclysmic event. You don’t fail overnight. Instead, failure is a few errors in judgment, repeated every day.”
ความล้มเหลว ไม่ได้เกิดชั่วข้ามคืน แต่เกิดจากความผิดพลาดซ้ำ ๆ ทุกวัน
6. “If you don’t design your own life plan, chances are you’ll fall into someone else’s plan. And guess what they have planned for you? Not much.”
ถ้าคุณไม่รู้จักวางแผนชีวิตของคุณเอง คุณจะต้องใช้ชีวิตไปตามแผนของคนอื่น ซึ่งแผนพวกนั้นไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อคุณ
7.“We generally change ourselves for one of two reasons: inspiration or desperation”
คนเราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยเหตุผลสองเหตุผล ไม่ “แรงบันดาลใจ” ก็ “ความสิ้นหวัง”
8.“Motivation is what gets you started. Habit is what keeps you going.”
แรงจูงใจ ทำให้คุณเริ่มทำอะไรบางอย่าง แต่สิ่งที่ทำให้คุณยืนหยัดต่อก็คือ ตัวของคุณเอง
9. “You must take personal responsibility. You cannot change the circumstances, the seasons, or the wind, but you can change yourself. That is something you have charge of.”
คุณต้องรับผิดชอบตัวของคุณเอง คุณไม่สามารถเปลี่ยนเปลงธรรมชาติได้ คุณไม่สามารถเปลี่ยนเปลงสิ่งรอบตัวได้ แต่คุณสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้
10. “Learn how to be happy with what you have while you pursue all that you want.”
จงเรียนรู้ที่จะมีความสุขในสิ่งที่คุณมี ในขณะที่ไขว่คว้าในสิ่งที่คุณต้องการ
11. “You are the average of the five people you spend the most time with.”
ตัวคุณจะเป็นอย่างไร ให้ดูจากคนห้าคนที่คุณใช้เวลาด้วยมากที่สุด
12. “Take care of your body. It’s the only place you have to live.”
ดูแลร่างกายของคุณให้ดี เพราะมันคือที่เดียวที่คุณต้องอาศัยอยู่
13. “The walls we build around us to keep sadness out also keeps out the joy.”
กำแพงที่เราสร้างเพื่อกันความเศร้า ก็กั้นเราออกจากความสุขด้วยเช่นกัน
14. “Asking is the beginning of receiving. I ask for all kinds of things. Make sure you don’t go to the ocean with a teaspoon. At least take a bucket so the kids won’t laugh at you.”
การ ขอ เป็นจุดเริ่มต้นของการได้รับ ผมจึงขอทุกสิ่งที่ผมต้องการ แต่เพื่อความชัวร์เวลาที่คุณไปทะเล อย่าเอาแค่ช้อนไปตักทราย อย่างน้อยก็เอาถังด้วยไป เด็ก ๆ จะได้ไม่หัวเราะเยาะคุณ
15. “Get around people who have something of value to share with you. Their impact will continue to have a significant effect on your life long after they have departed.”
จงพาตัวเองไปอยู่ข้างคนที่ให้คุณค่าอะไรบางอย่างกับคุณ คุณค่านั้นจะมีผลต่อชีวิตกับคุณในภายภาคหน้า แม้ว่าคนเหล่านั้นจะจากไปแล้ว
16. “Formal education will make you a living; self-education will make you a fortune.”
การศึกษาจะทำให้คุณไม่อดตาย แต่การเรียนรู้ด้วยตัวเองจะทำให้คุณร่ำรวย
17. “Make rest a necessity, not an objective. Only rest long enough to gather strength.”
จงให้ความสำคัญกับการพักผ่อน เพราะการพักผ่อนที่ดีจะช่วยเติมพลังให้กับคุณ
18. “Effective communication is 20% what you know and 80% how you feel about what you know.”
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 20% ของสิ่งที่คุณรับรู้ และ 80 % ว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่คุณรับรู้
19. “No one else ‘makes us angry.’ We make ourselves angry when we surrender control of our attitude.”
ไม่มีใครทำให้เราโกรธได้นอกจากตัวเรา เราจะโกรธเมื่อพ่ายแพ้ต่อการควบคุมทัศนคติของเรา
20. “You must either modify your dreams or magnify your skills.”
คุณต้องเลือกระหว่าง เปลี่ยนแปลงความฝัน หรือ เปลี่ยนแปลงตัวเอง

ที่มา : Entrepreneur