Breaking News

มีสาระดีดี มาให้คุณในทุกๆวัน

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมคนๆหนึ่งประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่าอีกคนหนึ่ง?



มีผลวิจัยค่ะจากมหาวิทยาลัยหนึ่ง
เอาเด็กเข้าไปไว้ในห้องแล้วเอาขนมมาร์ชแมลโลว์แจกให้คนละ 1 ก้อน
ถ้าเด็กคนไหน"อดใจ"ไม่กินขนมมาร์ชแมลโลว์ได้ ผู้ใหญ่จะให้เด็กคนนั้นอีก 1 ก้อน
ปรากฏว่าเด็กที่อดใจไม่กินขนมมาร์ชแมลโลว์ได้
โตขึ้นมาเป็นคนประสบความสำเร็จในชีวิต
การอดใจไม่กินขนมมาร์ชแมลโลว์ คือการ"ชะลอความต้องการ"ของตนเอง
และการยับยั้งชั่งใจ อดใจและทำในสิ่งที่เข้าสู่เป้าหมาย
แม้ยังไม่เห็น"ผลของความสำเร็จ"ในทันที
จากการศึกษานักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard U.)
พบว่านักศึกษา 10% ที่มีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน
แต่ไม่ได้เขียนเป้าหมายลงไป มีรายได้สูงกว่านักศึกษาที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิต
ส่วนนักศึกษา 3% ที่เขียนเป้าหมายของตัวเองลงไป
สุดท้ายแล้วจะมีรายได้สูงกว่านักศึกษาคนอื่นๆถึง 10 เท่า
จากหนังสือ The dip ของ Seth Godin กล่าวว่า
สิ่งที่ทำให้คนๆหนึ่งประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น
คือเขาผ่านสิ่งที่เรียกว่า "หล่มของชีวิต
คือจุดที่"ครึ่งๆกลางๆ" จุดที่เป็น"อุปสรรค"ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชีวิต
ที่ืทำให้หลายคนล้มเลิกไป บางคนล้มเลิกไป
ทั้งๆที่ไม่รู้เลยว่า อีกนิดใกล้จะถึงความสำเร็จอยู่แล้ว
ถ้าเรามีเป้าหมายในชีวิตที่ใหญ่ อุปสรรคที่เกิดขึ้นในชีวิตก็จะดูเล็ก
ถ้าเรามีเป้าหมายที่เล็กอุปสรรคในชีวิตก็จะใหญ่
คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรคในชีวิตและสิ่งที่เรียกว่า"โชคชะตา"
เขาเชื่อว่าสิ่งต่างๆในชีวิตเขานั้นเป็น"ความโชคดี"เสมอ
เป็นคนมองโลกในแง่บวกอยู่ตลอดเวลา
การมองโลกในแง่บวก คือการ"หาจุดดีในจุดเสีย"
ซึ่งจะทำให้เรามีความสุขในชีวิตมากขึ้นด้วย
และสิ่งที่สำคัญที่ทำให้คนไม่ประสบความสำเร็จเลยคือ "ความกลัว"
ที่นโปเลียน ฮิลล์ ผู้เขียน think and grow rich กล่าวไว้ว่า
มีปีศาจแห่งความกลัว 6 ประการ ที่จะทำให้คนไม่สำเร็จ
นั่นคือ กลัีวแก่ กลัวเจ็บ กลัวตาย กลัวคำวิพากษ์วิจารณ์
กลัวการสูญเสียความรัก กลัวจน
การที่คนหลายคนไม่ก้าวไปตามความฝันก็เพราะความกลัว 6 ประการนี้
และสุดท้ายทำให้เขามีชีวิตเหมือนคนส่วนใหญ่บนโลก ที่ใช้ชีวิตไปตามกระแส
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นคนส่วนน้อย ที่กล้าสวนกระแสของโลกใบนี้
ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จในชีวิตบ้าง
ก็ต้อง"คิดอย่างคนประสบความสำเร็จคิด ทำอย่างที่คนประสบความสำเร็จทำ"
ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นไปตามหลักเหตุและผล
ถ้าเราอยากได้"ผล" เราก็ต้องทำ"เหตุ"ให้ดี
ถ้าเราไปถามคนที่ไม่เคยสำเร็จในเรื่องนั้นๆ เราจะได้สิ่งที่เรียกว่า "ข้อคิดเห็น"
"
ข้อคิดเห็น"ไม่มีถูกหรือผิดและ"เป็นจริงเสมอสำหรับคนๆนั้น"
การที่เราเลือกจะเชื่อใครสักคน ดูที่"ผลลัพธ์"
ถ้าเราอยากเป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่สำเร็จ เราคงไม่ไปถามคนว่ายน้ำไม่เป็น
เพราะคนเหล่านั้นจะตอบว่า ...
"
อย่าลงไปเลย น้ำมันน่ากลัว นายโดดลงไปก็ตายแน่้"
นั่นเป็นสิ่งที่"คนส่วนใหญ่"ทำกัน
และบางคนทำสิ่งเหล่านี้อยู่ทุกวัน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่า
ตัวคุณกำลังไปถามคน"ว่ายน้ำไม่เป็นอยู่
ถามตัวเองว่าวันนี้คุณยังทำแบบนั้นอยู่ไหม?
เพราะฉะนั้น เวลาคุณจะเลือกทำอะไร
ต่อไปให้"ถามผู้ประสบความสำเร็จในเรื่องนั้นๆ"
ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามที่คุณอยากทำ
บางครั้งเราดูคนประสบความสำเร็จ ดูเหมือนสิ่งที่เขาได้มานั้น
เป็นเพราะเขา"เก่ง" เราชอบนึกว่า
"
ใช่สิ ก็เขาเก่งนี่ ฉันไม่เก่งฉันทำไม่ได้อย่างเขาหรอก"
คุณรู้ไหมว่า มีสิ่งคนสำเร็จต่างจากคุณสุดขั้วเพียง 1 ข้อ
ไม่ใช่"ความเก่งแต่เป็น "ความเชื่อ"
เขาเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย ว่าเขา "ทำได้"
และเขา"ลงมือทำ"สิ่งที่จะทำให้เข้าใกล้เป้าหมายของเขาไปเรื่อยๆ ทุกๆวัน
วันละเล็กละน้อยการที่เขาบรรลุเป้าหมายเล็กๆของเขาทุกวันนั้น
มันเหมือนลูกบอลหิมะ ที่ค่อยๆกลิ้งลงมาจากภูเขา
สักวันมันจะกลายเป็นหิมะถล่มที่ยิ่งใหญ่
เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มาจากการที่เราบรรลุเป้าหมายเล็กๆ ในทุกวัน
และสิ่งสำคัญอีกข้อ ที่คนประสบความสำเร็จ แตกต่างจากคนอื่นๆคือ
"
การยืนหยัด"คนที่ล้มเหลวมักจะัเกิดจากการ"ล้มเลิก"
ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นสำหรับผู้ที่ประสบความสำเร็จนั้น
ถือเป็นเรื่อง"ชั่วคราว" เพราะเขาจะคิดว่า
"
นี่คือสิ่งที่จักรวาล มอบให้เรา เพื่อให้เราเรียนรู้มากขึ้น
เราโชคดีจริงๆ ที่ได้เรียนรู้เรื่องนี้ในวันนี้
วันข้างหน้าเราจะได้ไม่ทำผิดพลาดในเรื่องเดิมๆ"
=========================================================
คนสำเร็จเคยแพ้ แต่ไม่เคยล้มเลิก
ชายคนหนึ่งเพิ่งจะมาพูดได้ตอนอายุ 4 ขวบ
ชายคนนั้น...เพิ่งจะมาอ่านหนังสือออกตอนอายุ 8 ขวบ
ชายคนนั้น...เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียน
ชายคนนั้น...เคยถูกปฎิเสธจาก โรงเรียนอาชีวะแห่ง ซูริค
ชายคนนั้น...เคยถูกอาจารย์ระบุว่า
"
สมองช้าไม่ชอบสังคมและล่องลอยอยู่ในความฝันอันโง่เขลาของตัวเองตลอดเวลา"
ชายคนนั้น...ชื่อ "อัลเบิร์ต ไอนสไตน์" บิดาแห่งปรมาณู

 
ชายคนหนึ่งเคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนเตรียมทหาร เวสต์พอยต์
ชายคนนั้น...ลองสมัครใหม่ดูอีกที
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอีก ครั้ง
ชายคนนั้น...พยายามเป็นครั้งที่สาม
ชายคนนั้น...ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน
ชายคนนั้น...ได้เป็นทหาร สม ใจ
ชายคนนั้น...เข้าไปอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สองได้สำเร็จ
ชายคนนั้น...ชื่อ "นายพล ดักลาส แมคอาเธอร์"
ผู้พิชิตแปซิฟิคแห่งสงครามโลกครั้งที่สอง

ชายกลุ่มหนึ่งเป็นนักดนตรี
ชายกลุ่มนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากผู้บริหารคนหนึ่ง จากบริษัทเดคคาเรคคอร์ต้ง
ชายกลุ่มนั้น...ถูกปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ ว่า
"
เราไม่ชอบเสียงเพลงของพวกเขา และกลุ่มนักดนตรีที่เล่นกีตาร์กำลังจะหมดสมัยแล้ว"
ชายกลุ่มนั้น...มีนามว่า "เดอะ บีเทิลส์" สี่เต่าทองแห่งตำนาน

ชายคนหนึ่ง...เป็นนักกีฬา
ชายคนนั้น...เล่นบาสเกตบอลให้กับทีม โรงเรียนมัธยม
ชายคนนั้น...เคยถูกคัดออกจากทีม โรงเรียน
ชายคนนั้น...ชื่อ "ไมเคิล จอร์แดน"
หนึ่งในนักกีฬาบาสเกตบอลที่ทำเงินมากที่สุดในโลก

ชายคนหนึ่ง... เป็นนักแต่งเพลงชาวเยอรมัน
ชายคนนั้น...สูญเสียความสามารถในการฟังลง เรื่อยๆ
ชายคนนั้น...หูหนวกสนิทเมื่อมีอายุได้ 46 ปี
ชายคนนั้น...ได้ใช้ช่วงเวลาบั้นปลายชีวิตประพันธ์เพลงที่ยอดเยี่ยม ที่สุด
ชายคนนั้น...ชื่อ "ลุดวิก ฟาน บีโธเฟน" (Ludwig van Beethoven)
นักประพันธ์เพลงชื่อก้องโลก

ชายคนหนึ่งสอบตกประถม 6
ชายคนนั้น...เคยมีชีวิตที่พ่ายแพ้และล้มเหลวมาตลอด
ชายคนนั้น...ล้วนทำประโยชน์ครั้งใหญ่ๆเมื่อเขากลายเป็นผู้สูงอายุ แล้ว
ชายคนนั้น...ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่ออายุ 62 ปี
ชายคนนั้น...ชื่อ "วินสตัน เชอร์ชิล" อดีตนายกรัฐมนตรี อังกฤษ

ชายคนหนึ่งเรียนปริญญาตรี
ชายคนนั้น...เคยถูกจัดให้เป็นแค่นักศึกษาระดับกลางเท่านั้น
ชายคนนั้น...เคยสอบได้อันดับที่ 15 จากนักศึกษา 22 คนในวิชาเคมี
ชายคนนั้น...ชื่อ "หลุยส์ ปาสเตอร์"

ชายคนหนึ่งเป็นนักร้อง
ชายคนนั้น...เคยถูกผู้จัดการของ แกรนด์โอเลโอเพรย์ไล่ออก
ชายคนนั้น...เคยโดนดูถูกว่า "แกมันไปไม่ถึงไหนเลย แกควรกลับไปขับรถบรรทุกมากกว่า"
ชายคนนั้น...ชื่อ "เอลวิส เพรสลีย์"

หญิงคนหนึ่งเป็นนางแบบผู้เปี่ยมไปด้วยความหวัง
หญิงคนนั้น...ทำ งานให้กับบริษัท Blue Book Modeling Agency
หญิงคนนั้น...เคยโดนผู้อำนวยการบริษัท บลูบุ๊ค โมเดลลิ่งเอเจนซี่ดูถูกว่า
"
เธอควรไปเรียนด้านเลขาฯหรือไม่ก็แต่งงานเสียดีกว่า"
หญิงคนนั้น...ชื่อ นอร์มา จีน เบเกอร์ หรือที่รู้จักกันในนาม "มาริลีนมอนโร" นั่นเอง

ชายคนหนึ่ง หลงใหลวิชาการเงินอย่างมาก
ชายคนนั้น...ยื่นใบสมัครกับมหาวิทยาลัยธุรกิจฮาร์วาร์ดอันเลื่องชื่อ
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธในเวลาต่อมา
ชายคนนั้น...ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจโคลัมเบีย
ชายคนนั้น...สำเร็จการ ศึกษา
ชายคนนั้น...ปัจจุบันมีสินทรัพย์รวมกว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
จากเงินลงทุนเพียง 100เหรียญสหรัฐ
ชายคนนั้น...ชื่อ "วอเรน บัฟเฟตต์"
นักลงทุนอัจฉริยะอภิมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก

ชายคน หนึ่ง หลงใหลในคอมพิวเตอร์อย่างมาก
ชายคนนั้น...ชอบหมกตัวกับคอมพิวเตอร์เป็นเวลา นานๆ
ชายคนนั้น...ถูกเพื่อนมองว่า "สกปรก - บ้าคอมพิวเตอร์"
ชายคนนั้น...เคยเสนอซอฟแวร์ระบบให้กับ แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอย่างไม่ใยดี
ชายคนนั้น...ปัจจุบันคือผู้ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนกับ แอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...เคยถูก ไอบีเอ็ม มองว่า "แค่เด็ก"
ชายคนนั้น...ปัจจุบันเป็นผู้นำบริษัทซอฟแวร์ที่ทรงอิทธิพลมากที่ สุด ในโลก
ชายคนนั้น...ชื่อ วิลเลี่ยม เฮนรี่ เกตส์ ที่สาม หรือที่รู้จักกันในนาม
"
บิลล์ เกตส์" ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก
ผู้ถือครองสินทรัพย์กว่า 46,000 ล้านเหรียญ
=========================================================
อย่าเพราะความ..ท้อแท้..จึงแพ้พ่าย
แม้เหนื่อยหน่าย..เหนื่อยหนัก..จงพักเสีย
ตราบเมื่อใจ..และกาย..หายอ่อนเพลีย
สูงอาจเตี้ย..ไกลอาจใกล้..ใช่ยากเย็น
=========================================================
ผู้ชนะเป็นส่วนหนึ่งของการแก้
แต่ผู้แพ้เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา
ผู้ ชนะเสนอสิ่งใหม่ให้ทุกครา
แต่ผู้แพ้สรรหาคำแก้ตัว
ผู้ ชนะมักบอก"ขอฉันช่วย"
แต่ผู้แพ้ไม่เอาด้วยเรื่อง ปวดหัว
ผู้ ชนะเห็นทางออกแม้มืดมัว
ผู้แพ้เฝ้าแต่กลัวเจอทางตัน
ผู้ชนะรอโอกาสทองแม้ต้องยุ่ง
ผู้แพ้มุ่งเห็นแต่ร้าย ที่หมายมั่น
ผู้ชนะว่าทำได้ต้องฝ่าฟัน
ผู้แพ้บอกเลิกฝันมันยากไป
ผู้ชนะมักมีอุปสรรค์ไว้ให้ข้าม
ผู้แพ้ยอมคุกเข่าอยู่ตรงหน้า
ผู้ชนะ มักมีการ แบ่งเวลา
ผู้แพ้ว่า เวลานั้นไม่มี

ผู้ชนะมักกล่าวคำ "เราทำได้"
ผู้แพ้ "ใช่ เราไม่เก่งเหมือนคนอื่นเขา"
ผู้ชนะบอก "นี่คือโอกาสของเรา"
ผู้แพ้เฝ้า รอดู คนอื่นทำ