ความสำคัญของ ธาตุเหล็ก
- หน้าที่สำคัญของธาตุเหล็ก คือ การสร้างเม็ดเลือดแดงในร่างกาย
- ธาตุเหล็ก เป็นส่วนประกอบของ ฮีม เพื่อนำไปสร้าง ฮีโมโกลบิน ในเม็ดเลือดแดง
- หน้าที่ของเม็ดเลือดแดง คือ การนำพาออกซิเจนไปสร้างพลังงาน ในเซลล์ส่วนต่างๆทั่วร่างกาย
- การขาดธาตุเหล็ก จะเกิดภาวะโลหิตจาง(ผิวซีด) ประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายลดลง ความอดทนต่อความหนาวลดลง(หนาวง่าย) มีผลต่อสติปัญญาภูมิคุ้มกันลดลง ป่วยง่ายขึ้น หากเกิดในหญิงตั้งครรภ์ก็มีโอกาสแท้งบุตรง่าย
- มักพบธาตุเหล็กในร่างกายเป็นจำนวนมากที่ เซลล์เม็ดเลือดแดง ไขกระดูก ตับ ม้าม กล้ามเนื้อลาย
> แหล่งของธาตุเหล็กในอาหาร ที่สำคัญแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
1) กลุ่มจากสัตว์ เช่น ตับ เนื้อแดง ม้าม เครื่องใน เลือด ไข่แดง หอยนางรม ฯลฯ
- ธาตุเหล็กที่อยู่ในสัตว์ มักจะพบว่าในรูปของ "ฮีม"(heme)
- ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย และนำ "ฮีม" ไปใช้สร้าง "ฮีมโมโกลบิน" ได้ง่าย
- ข้อควรระวัง ในการรับธาตุเหล็กในกลุ่มฮีม(heme)จากสัตว์ คือ การทานอาหารกลุ่มนี้ในปริมาณที่มากเกินไป อาจได้รับไขมันคอเลสเตอรอลส่วนเกิน ฉะนั้นจึงควรทานอาหารในกลุ่มนี้ในปริมาณที่พอเหมาะ
2) กลุ่มจากพืช เช่น ผักใบเขียวจัดๆ อาทิ ผักโขม ,ผักปวยเล้ง ,สปิแนช ,อัลฟัลฟ่า ,บร็อกโคลี่ ,คะน้า ฯลฯ
- ธาตุเหล็กที่อยู่ในพืช จะพบว่าอยู่ในรูปของ "นันฮีม" หรือ "นอนฮีม" แล้วแต่จะออกเสียง (non heme)
- ร่างกายดูดซึม "นันฮีม" ได้ยากกว่าในรูปของ ฮีม / ต้องอาศัยภาวะกรดในทางเดินอาหาร เช่น รับประทานผักสดใบเขียว ร่วมกับ วิตามิน ซี เป็นต้น จึงจะดูดซึม ธาตุเหล็กในรูป "นันฮีม"(non heme)ได้ดีขึ้น
- เมื่อ "นันฮีม"(non heme) ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายๆจะนำไปสร้าง ฮีม(heme) อีกทอดหนึ่ง แล้วจึงจะนำไปสร้าง ฮีโมโกลบินได้
- ข้อดีของการรับธาตุเหล็ก(นันฮีม)จากพืช คือ สามารถรับได้ค่อนข้างมากเนื่องจากต้องรับจากการกินผักใบเขียว ซึ่งก็จะได้รับเส้นใยอาหาร และ สารอาหารอื่นๆ เช่น ลูทีน/ซีแซนทีน รวมทั้ง วิตามิน ซี ที่มีอยู่ในพืชผักเหล่านั้นด้วย
> ความต้องการธาตุเหล็ก
- เพศหญิง ต้องการมากกว่า เพศชาย โดยเฉพาะหญิงที่อยู่ในวัยมีประจำเดือน (ต้องสูญเสียเลือดทุกๆเดือน)
- สตรีมีครรภ์ ต้องการธาตุเหล็กค่อนข้างสูงกว่าในช่วงปกติ
- ผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการขาดธาตุเหล็ก / หรือ มีแผลเปิดทำให้อวัยวะภายในเสียเลือด เช่น โรคกระเพาะ
- ชาย/หญิง หลังจากการบริจาคโลหิต(สูญเสียเลือด)
> ข้อควรระวัง
- ผู้ป่วยเลือดจาง ในกลุ่มโรค "ธารัสซิเมีย" คือกลุ่มที่ "ไม่ควรเสริม" ธาตุเหล็ก เนื่องจาก ผู้ป่วยกลุ่มนี้ ผนังเม็ดเลือดแดงไม่แข็งแรง ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกง่าย มีผลให้ธาตุเหล็กจากเม็ดเลือดแดงที่แตกสะสมอยู่ในหลอดเลือด รวมทั้ง ตับ ม้าม หรือ กล้ามเนื้อ หากสะสมมากเกินไปจะเกิดภาวะธาตุเหล็กเป็นพิษ จะเหนี่ยวนำอนุมูลอิสระให้มาทำลายเซลล์ (ผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด)
- เหตุผลข้างต้นทำให้ DX ของไทย ไม่มีส่วนผสมของธาตุเหล็ก เพราะจากการวิจัย พบว่ามีคนไทยจำนวนมากที่มีโอกาสเป็นโรคธารัสซิเมีย - ฉะนั้น คนที่ไม่ได้เป็นโรคธารัสซิเมีย และรับประทาน DX อยู่แล้ว หากต้องการเพิ่มธาตุเหล็กก็ควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น หรือ อาจใช้ตัวช่วย คือ สปิแนช พลัส ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีนะครับ
> โฟเลต (วิตามิน บี9)
- มีประโยชน์อย่างไร สามารถอ่านได้ในช่องความคิดเห็นด้านล่างครับ
by ปู-เปอร์ตีส